[หนัง] Power Rangers : ถึงเวลาแปลงร่าง!!

       จากปรากฏการณ์การแก่งแย่งในการเป็น "สีแดง"  การต่อสู้ของลูกผู้ชาย หุ่นรบและความสามัคคี ในวัยเด็ก ความทรงจำอันน่าประทับใจเหล่านี้ได้ถูกหยิบมาสร้างใหม่บนจอภาพยนตร์อีกครั้ง และทำได้ดีกว่าเดิม !

Power Rangers

สิ่งที่น่าสนใจ

1.คาแรคเตอร์และพัฒนาการที่มีมิติ

       ต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ "กล้า" สำหรับทีมงานพอสมควรที่ออกแบบคาแรคเตอร์ให้ตัวเอกทั้ง 5 เป็นกลุ่มเด็กมีปัญหาในสังคมเพราะหากทำออกมาได้ไม่ดีพอ ตัวละครจะขาดความน่าเชื่อถือ แต่พวกเขากลับทำออกมาได้ดีจนน่าประทับใจ ตัวละครทุกตัวมีความโดดเด่นและมีน้ำหนัก และมีพัฒนาการตัวละครที่น่าประทับใจ


2.หุ่น Zords ที่โคตรเท่ห์

      บอกได้เลยว่าดูดีกว่าภาพของเล่นที่ปล่อยออกมาก่อนหน้ามากๆ ทำให้ผมมองข้ามประเด็นเรื่องแมมอธ 8 ขา ไทรเซราท้อปส์ 6 ขาไปเสียสนิท

3.ฉากตลกที่ไม่น่ารำคาญ

      ก่อนชมผมค่อนข้างกังวลกับเรื่องการยัดเยียดมุขตลกผิดจังหวะหรือขาดๆเกินๆลงไปในหนังมาก แต่พอได้ชมแล้วกลับรู้สึกว่าทำได้ดี และทำให้บรรยากาศในหนังไม่ตึงเครียดจนเกินไป





 

 4.ความเป็น Power Rangers ที่ยังคงอยู่

      แม้จะเปลี่ยนดีเทลเล็กๆหลายๆอย่าง แต่นี่เป็นหนังที่ผมพูดได้เต็มปากว่า ได้กลิ่นอายของ Power Rangers แบบที่คุ้นเคยเต็มๆ

ข้อสังเกต

1.การปูพื้นตัวละครค่อนข้างใช้เวลา

       เป็นไปตามคาดที่ว่า หนังจะต้องใช้เวลาครึ่งเรื่องไปกับการปูบทตัวละคร เพราะเป็นหนังภาคแรก แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นน่าเบื่อแต่อย่างใด








       นอกจากนี้แม้จะมีหลายๆอย่างที่สามารถผลักดันให้ไปได้ดีกว่านี้ แต่โดยรวมถือว่าเป็นหนังที่ "ชอบ" เรื่องหนึ่ง

3/5 pts.

[Series] Iron Fist : ความรับผิดชอบ,ผลประโยชน์ และคำโกหก

       Iron Fist ถือเป็นซีรีย์ของค่าย Marvel ที่ฉายทาง Netflix เป็นลำดับที่ 5 (ก่อนหน้านี้คือ Daredevil , Jessica Jones , Daredevil SS2 และ Luke Cage) หากคุณชอบการต่อสู้ที่พริ้วไหวแบบภาพยนตร์กำลังภายในแล้ว Iron Fist ถือเป็นซีรีย์กำลังภายในที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบใหม่ที่ต่างออกไป และไม่ซ้ำใคร

       เนื้อเรื่องเล่าถึง แดนนี่ แรนด์ (Danny Rand) ทายาทเศรษฐีพันล้านแห่ง Rand Enterprise ที่ทุกคนต่างคิดว่าเสียชีวิตไปพร้อมกับพ่อแม่ในอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ได้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งใน New York หลังจากหายสาบสูญไปกว่า 15 ปี บททดสอบที่รอเขาอยู่คือ "การพิสูจน์ตัวเอง" ของเขาในฐานะ "แดนนี่ แรนด์ แห่งทายาทตระกูลแรนด์" และ....

"Iron Fist" 

ตัวละครหลัก

1.Danny Rand (รับบทโดย Finn Jones)

 

       ทายาทพันล้านแห่งตระกูลแรนด์แห่ง Rand Enterprise และผู้สืบทอดตำแหน่ง Iron Fist คนล่าสุดจากสำนักคุนลุ้น มีนิสัยซื่อตรง ไร้เดียงสาและใจร้อนมุทะลุ

2.Colleen Wing (รับบทโดย Jessica Henwick)

 

       หญิงสาวเจ้าของสำนัก Chikara Dojo ใน New York ถ่ายทอดเพลงดาบและวิถีแห่งบูชิโดให้กับเด็กกลุ่มหนึ่ง มีนิสัยมุทะลุ หัวร้อนง่ายเช่นเดียวกันกับแดนนี่

3.Ward Meachum (รับบทโดย Tom Pelphrey)

 

       เพื่อนเล่นสมัยเด็กของแดนนี่ ปัจจุบันทำงานบริหารอยู่ที่ Rand Enterprise เขาทำหน้าที่ได้ดีทั้งในฐานะผู้บริหารบริษัทและพี่ชายของ Joy Meachum

4.Joy Meachum (รับบทโดย Jessica Stroup)

 

       เพื่อนเล่นสมัยเด็กของแดนนี่ ปัจจุบันทำงานบริหารอยู่ที่ Rand Enterprise ร่วมกันกับพี่ชายอย่าง Ward Meachum เป็นคนมุ่งมั่นในการทำงานและคำนึงถึงบริษัทเสมอ

 ความน่าสนใจ

1.เกมแห่งผลประโยชน์ที่ไร้ความปราณี

       ด้วยความที่แดนนี่นั้นมีฐานะที่ "ทรงอิทธิพล" ต่อธุรกิจและความมั่นคงของสำนักคุนลุ้น ซีรีย์นี้สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีมากในแง่ของการแย่งชิงผลประโยชน์กันและกันจนถึงขั้นมองข้ามเรื่องศีลธรรม คุณธรรม และสายสัมพันธ์ต่างๆ

2.ภาระหน้าที่อันหนักอึ้งที่ต้องรับผิดชอบ

       และก็เป็นอีกหัวข้อหนึ่งที่ซีรีย์นำเรื่องฐานะของแดนนี่มาตั้งประเด็นย่อย ตลอดทั้งเรื่องจะมีการสื่อถึงเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบให้เห็นอยู่เสมอ

3.เคมีที่เข้ากันของพระนาง

       อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าแดนนี่และคอลลีนมีนิสัยที่เหมือนกันในเรื่องความมุทะลุใจร้อน ทั้งยังได้รับการฝึกการต่อสู้จากศาสตร์ตะวันออกคล้ายกัน ทำให้เป็นคู่รักซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดูเพลินและไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป

4.งานหัวร้อนไว้ใจแดนนี่

       ด้วยความที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียครั้งสำคัญไปในวัยเด็กต่อหน้าต่อตา ทำให้แดนนี่ แรนด์มักถูกภาพความหลังกระตุ้นให้หัวร้อนอยู่เสมอ

5.ศิลปะการต่อสู้แห่งตะวันออกและกำลังภายใน

       ถือได้ว่าทำออกมาได้ดีและน่าประทับใจ ทั้งในการใช้อาวุธต่างๆและต่อสู้ประชิดตัวที่พริ้วไหว

       โดยรวมถือเป็นซีรีย์ที่มีความหลากหลายที่สุดในบรรดาซีรีย์ของ Marvel ที่ฉายทาง Netflix ที่ยังคงความเข้มข้นทางเนื้อเรื่อง ตัวละครที่่มีมิติ และสเกลพลังที่ไม่เว่อร์วังอลังการจนเกินไป เพิ่มเติมคือสไตล์การต่อสู้ที่แปลกใหม่ เคมีที่เข้ากันของพระนาง และความหัวร้อนของพระเอก 

[Anime] Digimon Adventure Tri : การเดินทางครั้งใหม่ของเด็กที่ถูกเลือก

       ในยุคปัจจุบัน ความนิยมในการหยิบยกเรื่องราวต่างๆขึ้นมารีเมคใหม่หรือทำภาคต่อนั้นมีมากขึ้น Digimon Adventure เองก็ถือเป็นผลงานอนิเมะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงต้นๆปี ค.ศ. 2000 

       สำหรับผู้ที่ไม่เคยรับชมมาก่อนนั้น Digimon Adventure นั้นว่าด้วยเรื่องราวของเด็กประถมกลุ่มหนึ่งที่พลัดหลงเข้าไปยังโลก "ดิจิตอลเวิลด์(Digital World)" ที่นั่นเองพวกเขาได้พบกับมอนสเตอร์หน้าตาประหลาดที่เรียกตัวเองว่า "ดิจิม่อน(Digimon)" โชคชะตาพาให้เด็กๆกลุ่มนั้นและดิจิม่อนคู่ใจออกผจญภัยในดิจิตอลเวิลด์

       ความสำเร็จของ Digimon Adventure ได้ก่อให้เกิดอนิเมะเฟรนไชส์ภาคต่อๆมาอีกหลายภาค ทั้งยังส่งผลไปยังตลาดของเล่น

       กาลเวลาล่วงเลยผ่านมา เด็กๆที่เคยติดตาม Digimon Adventure ในตอนนั้นก็เติบโตขึ้น จนเมื่อปี ค.ศ.2015 อันเป็นช่วงเวลาครบรอบ 15 ปีของเฟรนไชส์ดิจิม่อน Toei Animation เลยใช้โอกาสดังกล่าวทำภาคต่อของจุดเริ่มต้นของเฟรนไชส์ดิจิม่อนโดยใช้ชื่อว่า 

"Digimon Adventure Tri." 

ตัวละครหลัก

1.ยางามิ ไทจิ (Yagami Taichi)

       หนึ่งในเด็กผู้ถูกเลือก มีคู่หูเป็น "อากูม่อน" และเป็นผู้ถือครอง "ตราสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ" มีบุคลิกที่ตรงไปตรงมา กล้าหาญ ปัจจุบันเป็นนักกีฬาฟุตบอลอยู่ที่โรงเรียน มีน้องสาวคือ "ยางามิ ฮิคาริ"

2.อากูม่อน (Agumon)

       ดิจิม่อนคู่หูของไทจิ ชื่นชอบของที่กินได้ทุกชนิด แต่จริงจังเสมอเวลาต่อสู้

3.อิชิดะ ยามาโตะ (Ishida Yamato)

       หนึ่งในเด็กผู้ถูกเลือก มีคู่หูคือ "กาบุม่อน" และเป็นผู้ถือครอง "ตราสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ" มักวางตัวเงียบขรึม ชื่นชอบในเสียงดนตรี ปัจจุบันตั้งวงดนตรีกับเพื่อนในโรงเรียน นอกจากนี้ยามาโตะยังสนิทสนมกับน้องชายอย่าง "ทาคาอิชิ ทาเครุ" เป็นอย่างมากอีกด้วย

4.กาบุม่อน (Gabumon)

       ดิจิม่อนคู่หูของยามาโตะ มีนิสัยขี้อายและกลัวน้ำ

5.ทาเคโนะอุจิ โซระ (Takenouchi Sora)

       หนึ่งในเด็กผู้ถูกเลือก มีคู่หูเป็น "ปิโยม่อน" และเป็นผู้ถือครอง "ตราสัญลักษณ์แห่งความรัก" เป็นเสมือนพี่สาวของบรรดาเด็กที่ถูกเลือกที่จะคอยดูแลเอาใจใส่ทุกคนอยู่เสมอ สนิทกับไทจิและยามาโตะเป็นพิเศษ

4.ปิโยม่อน (Biyomon)

       ดิจิม่อนคู่หูของโซระ ติดโซระเป็นอย่างมาก

5.อิซุมิ โคจิโร่ (Izumi Koushiro)

       หนึ่งในเด็กผู้ถูกเลือก มีคู่หูเป็น "เทนโทม่อน" และเป็นผู้ถือครอง "ตราสัญลักษณ์แห่งความรู้" ด้วยความที่รอบรู้จนเข้าขั้นอัจฉริยะจึงเป็นเสมือนห้องสมุดเคลื่อนที่ของกลุ่ม

6.เทนโทม่อน (Tentomon)

       ดิจิม่อนคู่หูของโคจิโร่ ชื่นชอบที่จะฟังโคจิโร่อธิบายเกี่ยวกับสิ่งต่างๆเป็นอย่างมาก และมักจะให้กำลังใจโคจิโร่อยู่เสมอ

7.ทาจิคาว่า มีมี่ (Tachikawa Mimi)

       หนึ่งในเด็กผู้ถูกเลือก มีคู่หูเป็น "พัลม่อน" และเป็นผู้ถือครอง "ตราสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์" เป็นเด็กสาวจอมแก่น ตรงไปตรงมา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็จริงใจกับเพื่อนเสมอ ปัจจุบันเพิ่งเดินทางกลับมาหาเพื่อนๆหลังจากไปเรียนที่อเมริกา

8.พัลม่อน (Palmon)

       ดิจิม่อนคู่หูของมีมี่ ติดมีมี่เป็นอย่างมาก มีนิสัยคล้ายกับมีมี่

9.คิโดะ โจ (Kido Joe)

       หนึ่งในเด็กผู้ถูกเลือก มีคู่หูเป็น "โกมาม่อน" และเป็นผู้ถือครอง "ตราสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์" แม้จะมีนิสัยขี้ขลาดขี้ระแวง จริงจัง และขี้บ่น แต่ด้วยความที่เป็นห่วงความปลอดภัยของเพื่อนๆอยู่เสมอ ทำให้โจเป็นเสมือนพี่ชายคนโตของกลุ่ม ปัจจุบันมุ่งหน้าเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพราะอายุมากกว่าพวกไทจิหนึ่งปี จึงทำให้โจ กดดันตัวเองอย่างมาก

10.โกมาม่อน (Gomamon)

       ดิจิม่อนคู่หูของโจ มีนิสัยขี้เล่น รักความสนุกสนาน

11.ทาคาอิชิ ทาเครุ (Takaichi Takeru)

       หนึ่งในเด็กผู้ถูกเลือก มีคู่หูเป็น "ปาตาม่อน" และเป็นผู้ถือครอง "ตราสัญลักษณ์แห่งความหวัง" เดิมมีนิสัยขี้แย แต่เมื่อเติบโตขึ้นกลับกลายเป็นเด็กหนุ่มเพลย์บอย แต่ก็ยังคงรักและเคารพ "อิชิดะ ยามาโตะ" พี่ชายตัวเองอยู่เสมอ ทาเครุสนิทกับ "ยางามิ ฮิคาริ" เป็นพิเศษ

12.ปาตาม่อน (Patamon)

       ดิจิม่อนคู่หูของทาเครุ มีนิสัยขี้แย ทำตัวเหมือนเด็ก

13.ยางามิ ฮิคาริ (Yagami Hikari)

       หนึ่งในเด็กผู้ถูกเลือก มีคู่หูเป็น "เทลม่อน" และเป็นผู้ถือครอง "ตราสัญลักษณ์แห่งแสงสว่าง" มักแสดงความเป็นห่วง"ยางามิ ไทจิ"พี่ชายของตนอยู่เสมอ ด้วยความสนิทกับ "ทาคาอิชิ ทาเครุ" ทำให้เธอมักชอบแหย่เกี่ยวกับความเป็นเพลย์บอยของทาเครุอยู่บ่อยๆ

14.เทลม่อน (Tailmon)

       ดิจิม่อนคู่หูของฮิคาริ เป็นดิจิม่อนตัวเดียวในกลุ่มเด็กที่ถูกเลือกที่สามารถคงอยู่ร่างโตเต็มวัยอยู่ตลอด

ความน่าสนใจ

       Digimon Adventure Tri นั้นเป็นภาคต่อที่ปรับเนื้อหาให้ "เติบโต" มากขึ้นตามกลุ่มผู้ชมจากภาคแรก ภายใต้คอนเซปต่างๆซึ่งผมจะขอยกตัวอย่างมาดังนี้

1.คนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบ จึงต้องพึ่งพาสิ่งต่างๆ
       ด้วยความที่กลุ่มเด็กที่ถูกเลือกนั้นมีนิสัยที่แตกต่างกันค่อนข้างมากและมีข้อเสียแตกต่างกัน แม้จะมีดิจิม่อนคู่หูเพื่อดึงศักยภาพบางอย่างในตัวออกมา แต่หลายครั้งที่ปัญหาที่เผชิญตรงหน้านั้น แค่เพียงความสามารถตนเองกับดิจิม่อนคู่หูยังไม่พอ ต้องร่วมมือกับเด็กที่ถูกเลือกคนอื่น

2.เพื่อน ไม่ว่าจะไม่พบกันนานเท่าไหร่ก็คือเพื่อน
       ดิจิม่อนคู่หูนั้นแสดงถึงเพื่อนสนิทได้อย่างดี บางคู่มีนิสัยคล้ายกัน เช่น ไทจิ-อากูม่อน,โซระ-ปิโยม่อน บางคู่มีนิสัยต่างกัน เช่น โจ-โกมาม่อน แม้จะไม่ได้พบกันเป็นเวลานาน และต่างคนต่างเติบโตขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เนื้อแท้ของมิตรภาพที่ถูกสร้างขึ้นจากความผูกพันจากการผ่านอะไรต่างๆมาด้วยกันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด

3.ปัญหา คือ โอกาสที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น
       เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่คับขัน ความสัมพันธ์ระหว่างคู่หูถูกทดสอบ เมื่อทั้งคู่ผ่านพ้นมันมาได้ นอกจากสายสัมพันธ์จะแน่นแฟ้นขึ้นแล้ว ยังดึงศักยภาพบางอย่างออกมาจากทั้งคู่อีกด้วย จะเห็นได้ว่า ไม่มีดิจิม่อนตัวไหนที่นอนๆอยู่ก็แปลงร่างได้เอง



        โดยรวมถือเป็นอนิเมะภาคต่อที่น่าประทับใจมากเรื่องหนึ่ง เนื้อเรื่องถูกแบ่งออกเป็นตอนย่อย ปัจจุบันฉายไปแล้วทั้งสิ้น 4 Parts (16ตอน) และยังมีPartต่อไปซึ่งยังไม่กำหนดวันเวลาฉายนะครับ

Part 1 : การพบกันอีกครั้ง (Reunion)

 เพื่อน ความกล้าและมิตรภาพที่ถูกทดสอบ

Part 2 : การตัดสินใจ (Determination)

 ความรับผิดชอบ ความบริสุทธิ์และความซื่อสัตย์ที่ถูกทดสอบ

Part 3 : คำสารภาพ (Confession)

 การเสียสละ ความรู้และความหวังที่ถูกทดสอบ

Part 4 : ความสูญเสีย (Loss)

 ความรักและสายสัมพันธ์ที่ถูกทดสอบ

และ...

พาร์ทต่อไปที่ยังไม่กำหนดวันฉาย

Part 5 : การอยู่ร่วมกัน (Symbiosis)

[Series] Westworld Season 1 : จุดเริ่มต้นของชีวิต

1.ทั่วไป

           Westworld คือซีรีย์แนวดราม่า-ไซไฟที่พูดถึง Westworld สวนในธีมยุคคาวบอยที่เปิดให้ผู้คนเข้ามาใช้บริการโดยเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในยุคคาวบอย โดยตัวซีรีย์จะใช้ศัพท์แทนผู้ใช้บริการว่า "เกสต์ (Guest)" และมีแอนดรอยด์สวมบทบาทต่างๆในเมืองที่ถูกเรียกว่า "โฮสต์(Host)" คอยปฏิสัมพันธ์กับเกสต์และโฮสต์ด้วยกันเอง
           ด้วยความที่ธีมปาร์คแห่งนี้กำหนดให้ เกสต์สามารถทำอะไรกับโฮสต์ได้อย่างอิสระ ในขณะที่โฮสต์นั้นไม่สามารถฆ่าเกสต์ได้ Westworld จึงเป็นดั่งโลกใบใหม่ที่ผู้คนต่างเข้ามาระบายอารมณ์ กิเลสต่างๆนาๆใส่โฮสต์ หรือแม้กระทั่งค้นหาบางอย่าง

2.ตัวละครหลักที่น่าสนใจ

 โดโลเรส อาเบอร์นาธี (Dolores Abernathy) 

โฮสต์ผู้รับบทบาทเป็นลูกสาวชาวไร่แห่งเมืองสวีทวอเตอร์ใน Westworld มีบุคลิกเรียบร้อย ช่างฝัน

เบอร์นาร์ด โลว์ (Bernard Lowe)

หัวหน้าแผนกโปรแกรมของ Westworld แม้จะมีหน้าตาที่ง่วงนอนตลอดเวลาแต่ก็เป็นคนที่ขยันขันแข็งและเต็มที่กับงาน ซึ่งนั่นก็คือ การรับผิดชอบเกี่ยวกับโค้ดต่างๆของโฮสต์ให้ทำงานไปเป็นไปตามปกติ

ธีโอดอร์ "เท็ดดี้" ฟลอดด์ (Theodore "Teddy" Flood)

โฮสต์ผู้รับบทชายผู้เดินทางกลับมายังสวีทวอเตอร์และเป็นคนรักของโดโลเรส มีบุคลิกอ่อนโยน มีความเป็นสุภาพบุรุษ

 

เทเรซ่า คัลเลน (Theresa Cullen) 

หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของ Westworld มีนิสัยตรงไปตรงมา จู้จี้จุกจิก เข้มงวด และจริงจังกับหน้าที่ในการควบคุมความเรียบร้อยของ Westworld มาก

เมฟ มิลเล่ย์ (Maeve Millay)


โฮสต์ผู้รับบทแม่เล้าประจำบาร์ Mariposa Saloon ในเมืองสวีทวอเตอร์

ดร.โรเบิร์ต ฟอร์ด (Dr.Robert Ford)

1 ในผู้ก่อตั้ง Westworld เป็นคนสุขุม เยือกเย็น และมีโลกส่วนตัวที่ค่อนข้างสูง

วิลเลี่ยม (William)

ชายหนุ่มผู้เข้ามาเป็นเกสต์ใน Westworld เพราะโดนลากมา มีบุคลิกอ่อนโยน มีความเป็นสุภาพบุรุษ และตรงไปตรงมา

ชายปริศนา (Men in Black)

ชายสูงอายุ เกสต์ขาประจำของ Westworld ผู้ตามไล่เก็บเนื้อเรื่องต่างๆใน Westworld และปฏิบัติต่อโฮสต์อย่างไร้ความปราณีใดๆ





3.ความน่าสนใจ

           สิ่งที่ทำให้ซีรีย์ Westworld มีความน่าสนใจนั้นมีหลายอย่าง ผมจะขอหยิบยกขึ้นมาอธิบายตามที่สัมผัสได้ดังนี้

ความคิดสร้างสรรค์ที่ลงตัวและปราณีต

สามารถผสานธีม "แอนดรอยด์+คาวบอย"ที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วได้อย่างแยบคาย ทั้งยังมีการหยิบยกแนวคิดเกี่ยวกับการทำงานของสมองและการวิวัฒนาการมาใส่ได้อย่างลงตัว

เนื้อเรื่องที่หลากหลายและทวีความเข้มข้น

แม้ตอนแรกจะดูทั่วไปและไม่หวือหวา แต่ด้วยการทิ้งท้ายตอนให้ชวนลุ้นกับเนื้อเรื่องที่ถูกเล่าผ่านหลายมุมมองตัวละครที่ทวีความตึงเครียดยิ่งขึ้นในทุกตอนประกอบกับบทที่พร้อมจะหักมุมได้ทุกเมื่อ ทำให้ Westworld เป็นอีกหนึ่งซีรีย์ที่สามารถทำให้คุณนั่งลุ้นไปกับมันได้